Rating: | ★★★★ |
Category: | Other |
ทำไมต้องกริปหนัง: ผมว่ามันก็คงจะเป็นคำตอบเดียวกับว่าทำไมคนส่วนใหญ่ถึงใช้กระเป๋าหนังมากกว่ากระเป๋าผ้า ส่วนนึงมันก็เป็นเรื่องของรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูดีมีราคากว่า แต่อีกส่วนนึ่งก็คงเป็นเรื่องของ feel เพราะมันต้องสัมผัสกับผิวหนังเราโดยตรง ผมเดาว่ามนุษย์คงไม่อยากจะสัมผัสกับอะไรที่แปลกปลอมไปจากธรรมชาติที่ตัวเองเป็นมากมายนัก เทนนิสก็เหมือนกัน เราก็คงไม่อยากจะใช้อะไรที่มันรู้สึกแปลกปลอมกับร่างกายมากไปนัก เริ่มตั้งแต่ racquet เลย หลายๆคนที่ได้คุยกันจะรู้ว่าผมชอบเล่นไม้ graphite รุ่นเก่าๆ เพราะผมรู้สึกว่า
มันถูกออกแบบมาให้มีความอ่อนตัวที่คอไม้เพื่อให้เข้ากับการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อท่อนแขน ข้อศอก หัวไหล่ ในการส่งแรงเหวี่ยงไปตีลูก และในขณะเดียวกันก็ต้องมีความแข็งแกร่งที่หน้าไม้เพื่อต้านแรงปะทะและเสริมความมั่นคงในการบังคับทิศทาง ง่ายๆเลย...มันต้องรู้สึกว่าเหมือนเป็นส่วนนึงของแขนเรา คงจะไม่มีใครที่ชอบไม้ที่แข็งตั้งแต่หัวจดปลาย หรือไม่ก็อ่อนปวกเปียกทั้งอัน อันนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ
ทีนี้มาถึงเรื่องกริปกันบ้าง จุดเด่นของกริปหนังก็คือการรักษา feel ที่ส่งมาจากไม้ถึงมือผู้เล่น เท่าที่ผมได้ลองใช้มาหลายยี่ห้อขอให้ feedback ดังนี้ครับ (ในภาพเรียงจากซ้ายไปขวา)
1. Head Finest Calfskin: ตัวนี้เป็นกริปหนังในตำนานครับ ตอนนี้ไม่มีขายแล้ว ผิวละเอียดนุ่ม แต่ลื่น feel ตอนที่ใช้กับร่วมกับ PC600 ดีมากๆ แต่ที่เหลือผมก็ไม่เห็นมันจะต่างจากกริปหนังอื่นๆเลย สิ่งที่ผมไม่ค่อยชอบคือ 1.) ความกว้างของกริป 22 mm. หา overgrip พันทับยากนอกจาก Wilson Pro Overgrip 2.) profile ของกริปจะป่องตรงกลางเพราะฉะนั้นจะพันให้เรียบไม่ได้เลยแม้ว่าจะ overlap กันเท่าไหร่ก็ตาม (ซึ่งผมชอบกริปแบบเรียบๆ)
2. Bosworth: ตัวนี้ต้องสั่งทำครับ ราคาแพงแต่มันเป็นกริปหนังที่มีคุณภาพสูงมาก ผิวของมันมีความละเอียดเนียนมากๆ และอ่อนตัวเข้าเหลี่ยมมุมได้ดี ผิวหนึบดี เวลาติดตั้งแล้วเรียบมากแทบจะไม่รู้สึกถึงตะเข็บเลย (เหมือนเอาด้ามไม้ไปชุบหนังมา) ผมว่ามันอาจจะเป็นเพราะเทคนิคการพันกริปที่เป็นเอกลักษณ์ของ Bosworth ด้วยนะ กริปตัวนี้ใช้เล่นแบบไม่พัน overgrip ได้ แต่มันจะกัดมือมากเนื่องจากผิวมันแนบกับด้าม racquet มากๆ ทำให้เหลี่ยมมุมต่างๆมันกัดมือ ถ้าหากริปตัวนี้ไม่ได้ผมว่าลองใช้ Volkl Calfskin ก็ได้ครับ
3. Wilson Leather: กริปตัวนี้หลายๆคนในต่างประเทศชอบกัน แต่ผมไม่ค่อยรู้สึกว่ามันเด่นเท่าไหร่ อย่างแรกคือ มันย้อมสีมาเยอะมาก บน K90 บางอันแดงแปร๋เลย เล่นได้แป๊บเดียวสีหลุดติดมือ อย่างที่ 2.) ผิวลื่นหลังจากสีหลุด ยังไงก็ต้องใช้ overgrip ความกว้าง 22 mm ซึ่งเท่ากับ Wilson Pro Overgrip (เหมือนล็อกสเปคไว้) ผมว่ามันแคบเกินไปสำหรับคนนิ้วใหญ่ อย่างที่ 3.) คือมันแพงกว่ายี่ห้ออื่นๆ
4. Head Leather Tour: อันนี้เป็นตัวใหม่ครับ ไม่ใช่ Calfskin แล้ว กริปสวยใช้ได้ นุ่มดี ความกว้าง 25 mm ผมลองใช้กับ Head YouTek Speed Pro มาก็พบว่าลื่นเหมือนของ Wilson เลย ยังไงก็ต้องมี overgrip
5. Volkl Calfskin: ตัวนี้เป็นกริปคุณภาพดีมาก หนังเป็นแบบ Calfskin (ลูกวัว) เพราะฉะนั้นความละเอียดและความนุ่มเหนือกว่ายี่ห้ออื่นๆที่มีขายอยู่ในปัจจุบันแน่นอน ถ้าได้สัมผัสจะรู้สึกคล้ายๆกับหนังชามัวร์ เหมาะกับทั้งการเล่นกริปเปลือยหรือพันทับ overgrip กริปตัวนี้ยังพอมีขายอยู่ที่ TW นะแต่พอออกมาได้แป๊บเดียวของก็หมดซะแล้ว กริปตัวนี้ติดตั้งได้ง่ายสุดๆ เพราะความอ่อนตัวของหนังทำให้มันสามารถพับตัวเข้าตามเหลี่ยมมุมได้ง่ายมากๆ นอกจากกริปของ Bosworth แล้ว Volkl Calfskin เป็นกริปอันเพียงอันเดียวที่ผมรู้สึกว่าพันไปแล้วเหลี่ยมของด้าม (bevel) ไม้ยังคมอยู่ ความกว้างกริป 25 mm. ความยาวที่ให้มาพออย่างเหลือๆ เหลือพอที่จะเอาหนังที่เหลือมาทำ Power Pad ได้อีกด้วย
6. Gamma Leather: กริปนี้ไม่ผิดหวังครับ ราคาถูกสุด เนื้อหนังละเอียดใช้ได้ ไม่นุ่มไม่แข็งเกินไป สีไม่หลุดติดมือ ติดตั้งง่าย ถ้าไม่พัน overgrip ทับก็ยังเล่นได้เนื่องจากผิวมีความหนึบพอสมวร แต่ถึงแม้ว่าโดนเหงื่อแล้วก็ไม่ลื่นมากเท่าไหร่ ตัวกริปมีความกว้าง 25mm ซึ่งเท่ากับความกว้างของ Tournagrip หรือ Toalson Overgrip พอดี ผมว่า Gamma Leather เหมาะกับการเล่นทั้งแบบ กริปเปลือย หรือใช้ Synthetic Overgrip ที่มีขนาดความกว้างที่แมทช์กันครับ ความคงทนไม่ต้องพูดถึง ผมใช้แบบ recycle กับหลากหลายไม้ได้อย่างไม่มีปัญหาครับ
7. Tenniswarehouse Private Label Leather (ไม่อยู่ในรูป): ผมเคยสั่งมาใช้ช่วงแรกๆครับ มี 2 ความกว้าง 2 ความหนา ผิวไม่ละเอียดเท่ากับยี่ห้ออื่นๆ แต่หนึบพอสมควร ตัวหนังยังไม่ผ่านการ Pre-Stretch มาก่อน เพราะฉะนั้นยังดึงได้อีก แต่ผมว่ากริปตัวนี้ยังมีปัญหาเรื่อง QC อยู่ ผมสั่งมา 2 ครังนี่แทบจะไม่เหมือนกันเลย ทั้งสีและความนุ่ม ครั้งแรกอ่อนนุ่ม ครั้งที่สองผิวออกแห้งๆคล้ายกระดาษ เลยเลิกสั่งครับ
ใครมีประสปการณ์จะมาแชร์กันเพิ่มเติมก็ขอเชิญเลยครับ วันไปก่อนล่ะ สวัสดีครับ
Update April 23 - Tip & Trick วิธีการพันกริปหนัง
เช้านี้ผมเอาบทสนทนา email ระหว่างผมกับ tournament stringer ท่านนึงมาให้ดูเกี่ยวกับเรื่องของการพันกริปหนังครับ ผมคิดว่ามันเป็น tip&trick ที่มีประโยชน์ดี (ขอไม่แปลละกันจะได้ไม่บิดเบือนไปมากครับ)
Sam: I just noticed that your racquet grips look really nice. Can you please share me a good technique in wrapping leather grip?
Stringer: heres what is important.
1. put 1 square of tape on each flat side of the buttcap so 2 squares total. then wrap double sided tape like a grip but with gaps not overlaping.
2. start grip on flat side of buttcap where tape is, give a good pull then staple it down with a nice small staple not a huge one. staple should be about 4mm wide. if you dont have staples dont worry you should still be ok.
3. then just give the grip a nice consistant pull as you wrap it it. peel up backing to tape as you wrap the grip that way you arent working with a sticky mess the whole time.
4. trim the grip put on the tape then you are all set.
Sam: Thanks a lot. Don't you normally put tape on the leather and then just wrap it on the handle? Is there any benefit of applying tapes on the handle instead of on leather? Actually, this is my first time using Head Calfskin. I really like it because it's softer and thiner than other brands. In addition to Head Calfskin, do you also prefer other leather brand?
Stringer: No its best to put tape on handle if you tape leather the tape will rip when you are streaching the leather. I promise this is the best way to do it. The head calfskin are the nicest leather grips.
กริป 2 อันทางขวามือเค้าทำ อีก 2 อันทางซ้ายเป็นน้ำมือผมเอง จะสังเกตุว่าเค้าดึงตึงกว่าผม ซึ่งจะทำให้ได้รอยต่อกริปที่เรียบเนียนกว่า ส่วนเรื่อง Head Finest Calfskin นี้เยี่ยมมากครับ บาง นุ่ม เข้ามุมง่าย เหลี่ยมมุมเสียน้อยมาก ที่สำคัญยังพอหาได้นะครับ แต่ต้องสั่งนำเข้า