Pages

Sunday, March 18, 2012

รวมมิตรรีวิว Wilson Pro Staff 90 BLX, Head IG Prestige Mid/MP, Head IG Radical Pro, Prince EXO3 Tour 18x20, Babolat Pure Storm GT 2011

Rating:★★★★
Category:Other
และแล้วก็ได้โอกาสมารีวิวไม้ใหม่ๆกันอีกครั้ง เพราะหลังจากนี้จะไม่ค่อยมีเวลาแล้ว ช่วงสองเดือนที่ผ่านมาต้องใช้งบลับซื้อไม้ใหม่ๆมาลอง 5 ไม้ด้วยกัน แต่ขายไปแล้ว 2 แล้วเดี๋ยวก็คงขายอีกจะได้เอาไปซื้อ Babolat ตัวใหม่ มาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ




Head IG Prestige Mid: ผมต้องไปซื้อถึงฮ่องกงเพราะเมืองไทยมีแต่กริป 4-1/4 แต่บอกได้เลยว่าตีไม้ control แบบนี้เลือกกริป 4-3/8 หรือ 4-1/2 ดีกว่าครับ รูปร่างกริปยังแบนเหมือนเดิมจนผมต้องรื้อมาปรับใหม่โดยหนุนให้สูงขึ้นมากอีก 1mm แล้วก็ใส่กริปหนัง จากนั้นก็ขึ้นเอ็นทดลองเป็น multifilament ที่ 52 lbs แล้วก็เอามาตีเลย สัมผัสแรก คือเหมือนได้ PC600 กลับมา 75-80% แล้ว ก้านไม้อ่อนปานกลาง ไม่อ่อนมากจาก control ทิศทางลำบากเหมือน Radical Pro ส่วน feel ที่ครึ่งล่างของหน้าไม้ นุ่มและดิบเหมือน PC600 แต่ด้านบนยังไม่ค่อยแน่นเหมือนต้นฉบับ จริงๆแล้ว Head IG ทุกตัวที่ผมลองมาเป็นแบบนี้หมดเลยคือ ช่วงล่างแน่น แต่ข้างบนกลวง ...ก็ตีให้แม่นๆหน่อยละกัน การตี Groundstroke ลื่นไหลดีมากทั้ง forehand และ backhand และที่สำคัญ Plow-Thru สูงกว่า Wilson PS90BLX ไม่ต้องตีเข่นก็สามารถดันลูก flat วิ่งเลียดเน็ตไปได้สบายๆ Power ผมว่าดีกว่า PC600 และ YouTek จุดเด่นคือ flat forehand ที่ผมว่า control ง่ายสุดในไม้ใหม่ล็อตนี้ที่ได้ลองมา มันตีกดเลียดเน็ตได้คงเส้นคงวาจริงๆ แต่ backhand มือเดียวต้องปรับกันหน่อยเพราะรูปร่างกริปไม่เอื้ออำนวย Volley ดีใช้ได้ ไม่มีสบัดหรือกระพือ เอาเป็นว่าใครชอบยืนตีห่างจาก baseline 1-2 เมตรเป็นประจำและชอบยิงบอลต่ำสามารถใช้ IG Prestige Mid ได้สบาย




Wilson Pro Staff 90 BLX: ภายในเดือนเดียวผมซื้อไม้ตัวนี้ 2 ครั้ง (อาการเดิมเหมือนตอน K90 เลย) ตัวแรกขายไปหลังจากตีไป 2 ชั่วโมง แต่พอไปเห็นอีกทีที่ฮ่องกงก็อดใจไม่ได้ (แพ้ความขาว) อย่างที่เคยบอกว่าใครได้ลองไม้ตัวนี้เป็นต้องเสพติดแน่นอน เพราะ Wilson ทำให้ไม้แนวคอนโทรลจ๋าๆอย่าง Pro Staff ตีได้ง่ายขึ้นกว่าพวกตัวเก่าอย่าง N90, K90 หรือแม้แต่ BLX90 อยู่หลายช่วงตัว ผมทดสอบด้วยเอ็น multi ทั้งสองครั้ง ผลทางด้าน feel ต่างกันเล็กน้อย แต่สามารถแนะนำได้เลยว่าถ้าจะขึ้น multi ให้ขึ้นตึงแบบ 58-60 ไปเลยเพราะ power ของไม้ตัวนี้เยอะพอสมควรแล้วพอเอ็นหย่อนๆจะ control ลูกลำบาก ก้านไม้อ่อนกว่า Head IG Prestige Mid ซึ่งจริงๆแล้วควรจะแข็งกว่า feel ยังนุ่มลึกเงียบๆตามสไตล์ Wilson แต่ก็ถือว่าคมชัดขึ้นกว่ากว่า BLX90 แต่ไม่คมเท่า K90 ผมรู้สึกเฉยๆกับ feel ของไม้ตัวนี้เมื่อตีเทียบกับ Head IG Prestige Mid หรือ Wilson Pro Staff 85 St Vincent ซึ่งให้ feel ที่แน่นเต็มหน้าไม้กว่า แข็งแรงกว่า และอุ้มลูกดีกว่า ผมว่า Wilson ยังกั๊กเรื่อง feel ในไม้ BLX อยู่ อาจเป็นเพราะการกระจายน้ำหนักไม้มาทางด้านล่างมากขึ้นทำให้ขาดมวลไม้ในช่วงหัวๆ พอตีโดนด้านบนเลยรู้สึกไม่แน่นเท่าไหร่ Groundstroke ถือว่าดี อย่างที่บอกว่าเป็นไม้คอนโทรลที่ตีง่าย เหมือนมีเครื่องทุ่นแรงมาช่วยตี ก็เลยไม่ค่อยได้รสชาดความมันส์เหมือน K90 ในขณะที่ Head IG Prestige Mid โดดเด่นทางด้าน flat forehand ตัว PS90BLX จะโดดเด่นในเรื่อง one-handed backhand ที่สามารถตีได้ง่ายขึ้น มีพลังขึ้น และคุมทิศทางได้แน่นอนกว่า Slice และ Volley ก็ ok ไม่โดดเด่นมาก ถามว่าไม้ตัวนี้เหมาะกับใคร จากที่ลองๆมาคิดว่า All-Court เพราะความคล่องตัวและการยิงหวังผลจากกลางคอร์ท (นึกถึง DONNAY Silver 99 เลย) ผมยังต้องทดสอบไม้ตัวนี้เพิ่มเติมที่ความตึงสูงกว่านี้แล้วจะมาอัพเดทอีกทีครับ




Head IG Radical Pro: แบบเดิมๆไม่ถ่วงเลย ค่อนข้างเบาครับ รู้สึกว่าเบากว่าตัวเก่ามากทั้งๆที่น้ำหนักเท่ากัน ตีง่ายกว่าเดิม ซวิงลมแล้วเหมือนเหวี่ยงไม้กวาด power มากมายแต่หน้าไม้ไม่ค่อย stable เท่าไหร่ (เฟรมไม่ได้เป็น box beam) ก้านอ่อนพอๆกับตัวเก่าแต่หน้าไม้เร็วกว่าตัวเก่ามากจนหลายๆครั้งผมตีแป้กขอบไม้ ไม้ตัวนี้เหมาะกับคนที่ตี forehand แล้ว backswing แบบปิดหน้าไม้ (เหมือน Murray) จึงจะคุมทิศทางได้ดีกว่า ถ้า backswing แบบเปิดหน้าไม้ (แบบ Novak) วิถีลูกมีแนวโน้มที่จะตีไม่โดน sweet spot และลูกบานออกขวา ส่วน backhand มือเดียวไม่ค่อยดีเท่าไหร่เพราะผมยังคลำหามุมตีที่รู้สึกว่า control ทิศทางอยู่ไม่เจอ ความตั้งใจแรกที่ซื้อมาคือจะเอามาลองเทียบกับ DONNAY Pro One 16x19 เพราะ spec มันใกล้กันมาก แต่พอเอาเข้าจริง มันคนละสไตล์เลย Head IG Radical Pro เหมาะกับคนที่เล่น baseline อย่างใจเย็น รอจังหวะยิงลูกหนักๆ ลากซวิงยาวๆและซวิงปิดหน้าไม้ และที่สำคัญต้องตีลูกหน้าตัวอย่างสม่ำเสมอ ในขณะที่ DONNAY Pro One จะยิงบอลหนักๆได้หลายโอกาสกว่า เหมาะกับคนที่เดินเกมเร็ว ยิงบอลบ้าระห่ำจากทุกมุมของคอร์ท เพราะก้านไม้ที่แข็งกว่าและโครงสร้างหน้าไม้ที่นิ่งกว่า

Head IG Prestige MP: ซวิงง่ายเพราะหัวเบาขึ้นกว่าตัวเก่า แต่ก้านไม้ค่อนข้างแข็งกว่า 62RA แน่นอน volley เยี่ยมมากๆ แต่ groundstroke ยังไม่ค่อยโดนใจเท่าไหร่ power น้อยกว่าตัวเก่า (ตีติดเน็ทบ่อย) อย่างที่เคยบอกว่า feel คล้ายๆ Wilson Pro Staff แต่ถ้าตีหลุด sweet spot มาทางด้านบนของไม้จะรู้ว่ากลวงเหมือน Babolat (ปกติ Head Prestige ไม่กลวงที่ off-center นะ) ผมเดาว่าไม้ตัวนี้อาจจะเหมาะกับคนที่ใช้เอ็น poly เป็นหลัก โดยรวม Feel ไม่เหมือน Prestige MP รุ่นเก่าๆหรือ Pro Tour เลย







Prince EXO3 Tour 18x20: ไม่ได้เป็นไม่ใหม่แต่ก็น่าสนใจอยู่เหมือนกัน กับไม้นี้ผมต้องปรับตัวนานมากๆ เพราะ feel มันต่างจากไม้ตัวอื่นๆที่ผมเคยลองมาแม้กระทั่ง Prince EXO3 Rebel เองก็ตาม Feel นุ่มมาก sweet spot บานใหญ่มาก หาจุดบอดที่เหมือนลูกจะไม่เด้งแทบไม่มีเลย สัมผัสบอลที่รู้สึกแรกๆคือ "นุ่มนวล" แต่ "โคลงเคลง" เพราะไม้ตัวนี้มี จุดอ่อนตัว 2 ที่คือ ก้านอ่อน รูตาไก่ (o-port) ที่ยอมให้เอ็นเคลื่อนตัวได้มาก การกะน้ำหนักตีบอลค่อนข้างลำบาก หลายๆครั้งที่หวดเต็มที่แล้วลูกไม่ค่อยไป แต่พอตั้งหน้าไม้นิ่งๆเพื่อบล็อกลูกกลับดีดออกแรงมากซะงั้น แต่ถ้าปรับตัวได้ผมเชื่อว่าเป็นไม้ที่ตี groundstroke ได้ดีมากๆตัวนึงเลย ตอนนี้ผมได้ชุดตาไก่แบบรูมาแล้ว ไว้จะเอามาลองดูเผื่อจะกะน้ำหนักบอลได้แม่นยำขึ้น




Babolat Pure Storm GT 2011: ตัวนี้เป็นไม้แนว Aggressive All-Court แบบเดียวกับพวก Head Radical MP หรือ Wilson Blade 98 ตัวไม้มีสีสันสวยงามกัดตา ขึ้นกับเอ็น Solinco Revolution แล้วดูดีมาก frame เป็น box beam และก้านอ่อนกว่า Babolat ตัวอื่นๆ เป็นไม้ที่เอาไว้เล่นเกมบุกได้ดีมาก เพราะน้ำหนักเบา คล่องตัว sweet spot ใหญ่ ตีง่ายตามสไตล์ Babolat ยิงอัด forehand ได้หนักหน่วงดี power และ spin ดีใช้ได้ แต่พอต้องเอามาเล่นเกมรับลูกหนักๆ ไม้ตัวนี้ต้านไม่อยู่ หน้าไม้พลิกตลอด คนที่จะเล่นไม้ตัวนี้ได้ต้องมีแขนที่แข็งแรงจริงๆ เพราะไม้ทำงานประมาณ 30% และแขนคุณต้องทำงาน 70% เพื่อต้านบอลให้อยู่ feel กลวงตลอดทั้งไม้และหน้าไม้ไม่นิ่งแล้วดันก้านอ่อนอีก เบา-อ่อน-กลวง นี่มันไม่เข้ากันจริงๆ ไม้ตระกูล Pure Drive ก็กลวงเหมือนกันแต่ก้านแข็งตีดีกว่าเยอะเลยครับ