Pages

Thursday, February 2, 2012

DONNAY X-Dual Silver 99 และ เอ็นไฮบริด Solinco Tour Bite + Barb Wire

Rating:★★★★
Category:Other
ก่อนลางานเพื่อที่เอาไม้ DONNAY X-Dual Siver 99 พร้อมกับไม้อื่นๆไปให้นักกีฬาที่ Asia Tennis Academy ที่เชียงใหม่ได้ลองกัน คืนนี้ขอรีวิวไม้ตัวนี้พร้อมกับเอ็นสูตรใหม่ที่ผมพูดถึงมาสักพักนึงแล้วคือ Solinco Tour Bite + Barb Wire ซึ่งเป็นโพลีทั้งคู่ ผมได้ลอง Silver 99 มาแล้วครั้งนึงเมื่อปีที่แล้วตอนที่ทดสอบ X-Dual Gold 99 ตอนนั้นทดลองสลับไปมาสองไม้ปรากฎว่า งงไปหมด แยกข้อแตกต่างไม่ได้ เลยเลือกรีวิวแต่ Gold 99 ไปก่อน แต่คราวนี้ผมมีเวลาให้กับ Silver 99 ค่อนข้างมาก เพราะต้องทดสอบเอ็นหลายตัวบนไม้ X-Dual Silver 99 ตัวนี้



Set-Up: X-Dual Silver 99 ใน stock form จะค่อนข้างเบา ผมลองปรับน้ำหนักหลายวิธีสุดท้ายมาลงที่การเปลี่ยนเป็นกริปหนังและถ่วงหัว +3g และ ถ่วงท้าย +10g ที่ท้ายด้ามเพื่อให้รู้สึกว่าหัวไวขึ้นและมีแรงปะทะเพียงพอ สำหรับการเล่นแบบ All-Court ส่วนเอ็นที่ลงตัวก็เป็น Solinco Tour Bite + Barb Wire ที่ 52 lbs

Power: ไม้ตัวนี้เป็นไม้ที่ให้ power ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับไม้ DONNAY ตัวอื่นที่ได้ลองมา แค่กำไม้แน่นบล็อกลูก บอลก็พุ่งแล้ว ถ้าคุมบอลไม่ดีก็หลุดออกหลังไปเลย มันให้ความรู้สึกแปลกตรงที่ไม้อื่นๆต้องออกแรงเยอะเพื่อสร้าง power แต่ Silver 99 ตัวนี้ต้องออกแรงเยอะเพื่อ control ไม่ให้ลูกล้นออก (ด้วยการปั่นสปิน) อารมณ์คล้ายๆกับ Babolat AeroPro Drive ที่ใครๆก็บอกว่า power ให้มาเกิน แต่ถ้าใครรู้จักปรับเอ็นและวงซวิงก็จะสามารถควบคุมไม้ตัวนี้ได้ไม่ยาก



Groundstroke: ตามสเป็คที่ทาง DONNAY แจ้งไว้คือไม้ตัวนี้ควรจะเหมาะกับ baseline แต่พอตีเข้าจริง ผมว่ามันเหมาะกับเกมแบบ Aggressive All-Court มากกว่า ถ้าใครชอบ baseline ผมว่า X-Dual Gold 99 เหมาะกว่าเพราะก้านไม้อ่อนกว่า ความรู้สึกโดยรวมของ X-Dual Silver 99 จะคล้ายๆกับ X-Orange 99 ที่เหมาะกับการเล่นเกมบุก ปิดเกมเร็วๆ แต่ Silver จะให้ power ที่เยอะขึ้นและ sweet spot ที่กว้างขึ้น ตีง่ายขึ้น ความรุนแรงของเกมเลยมีมากขึ้น เมื่อขึ้นเอ็น Solinco Tour Bite และ Barb Wire เข้าไปแล้วจะให้การคอนโทรลบอลที่ง่ายและแม่นยำขึ้น การขึ้นยิงลูกจากกลางคอร์ทถือว่าเป็นจุดเด่นของไม้ตัวนี้ คือได้ทั้งความรุนแรง และทิศทาง ส่วน backhand มือเดียวสามารถตีได้ง่ายกว่า X-Orange 99 และคงเส้นคงวา แถมลูกมีติดสปินไปในตัวด้วย

Feel: เหมือนกับ X-Dual ตัวอื่นๆคือ นุ่ม และค่อนข้างเงียบ แต่ที่สำคัญคือตีสบายแขนมาก แรงสะท้านน้อยมาถึงข้อศอกน้อย

Spin: ไม้เบา ก้านแข็งปานกลาง (65 RDC) และเอ็น 16x19 คือสเปคของไม้ Spin-Oriented อยู่แล้ว ถ้าใครเอาไปตีแฟลตอย่างเดียวถือว่าเสียของครับ :) Spin ผมว่าปั่นได้ดีไม่แพ้ Babolat AeroPro Drive แต่แรงส่งอาจจะไม่ดีเท่า แต่ถ้าเอาคะแนน control มารวมด้วย ก็พอฟัดพอเหวี่ยง

Volley & Stability: ใช้ได้ครับ แต่ก็ไม่มีอะไรโดดเด่นเหมือนการเข้ายิงบอลจากกลางคอร์ท ความเสถียรของหน้าไม้สูง ไม่ต้องถ่วงเพิ่มที่ 3 และ 9 นาฬิกา

Slice: ลูกค่อนข้างเหิน ผมยังปรับตัวเข้ากับ Silver ในเรื่อง Slice ไม่ได้

บทสรุป: ไม้ DONNAY X-Dual Siver 99 เป็นไม้กึ่ง power ที่ให้คอนโทรลดีหากได้เอ็นที่เหมาะสม แนะนำให้เป็น hybrid เพื่อ stringbed ที่เกาะลูกได้ดีกว่า เหมาะกับ 1) ผู้ที่เล่นเกม Aggressive All-Court มากกว่าที่จะเป็น Baseline 2) ผู้ที่บ้าพลังแต่กลัวเจ็บศอกกับไหล่ 3) ผู้ที่ชอบตีสปินหรือกึ่งแฟลตกึ่งสปินเป็นหลัก ถ้าตีแฟลตอย่าเดียว Platinum 99 จะเหมาะกว่า



ส่วนเอ็นไฮบริด Solinco Tour Bite + Barb Wire ผมมี feedback สั้นๆประมาณนี้ครับ พอดีมีคนถามมาในเมลว่ามันแตกต่างจาก Solinco Tour Bite + Vanquish ยังไง เลยขอตัดแปะมาตอบละกัน

Tour Bite + Barb Wire มันจะให้ feel นุ่มและเฟิร์มในเวลาเดียวกัน ผมเอามาขึ้นกับ Silver 99 (ถ่วงหัว +3g และท้าย +10g) แล้วยิงบอลจากกลางคอร์ทมันมาก แบ็คแฮนด์มือเดียวให้สปินดีลูกวิ่งถึงท้ายคอร์ทแบบพอดีๆ จุดเด่นคือ control ครับ บอลเกาะ Stringbed ดีกว่า Tour Bite ล้วนๆ ลูกไม่ได้พุ่งออกไปทันทีทันใด ช่วยในเรื่องการคอนโทรลของไม้แนวกึ่ง power ที่น้ำหนักเบาอย่าง Silver ได้เยอะ น่าจะเหมาะกับพวก Head Radical MP ด้วยเช่นกัน หรือไม้อะไรก็ตามที่ต้องเร่งหัวไม้เร็วๆเพื่อสร้าง power Feel เป็นคนละแบบกับ Tour Bite + Vanquish ที่นุ่มลึก (คล้ายๆกับ feel ของไม้ Wilson Pro Staff ที่ขึ้นเอ็น gut ไว้) เหมาะกับการเล่นแบบเน้นวางทางบอลหรือ serve & volley มากกว่า