Pages

Tuesday, February 16, 2010

Wilson Six One Tour BLX 90 (Roger Federer)

Rating:★★★★★
Category:Other
สวัสดีครับ วันนี้ได้มีโอกาสมาโชว์ความเห่อของใหม่กันอีกแล้ว :) คราวนี้เป็น Wilson Six One Tour BLX 90 ซึ่งเป็นไม้ตัวล่าสุดในตระกูล Pro Staff ที่ Roger Federer ใช้มาตั้งแต่เล่นเทนนิสอาชีพ ความโดดเด่นที่ของไม้ตัวนี้ที่ยั่วน้ำลายเป็นอย่างมากก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องลวดลายและสีสันที่ดูดุดันได้ใจเหลือเกิน คราวนี้ Wilson มาแนว Asymetric Design คือลวดลายสองข้างไม่เหมือนกัน แถมยังสื่อความหมายได้ดีอีกด้วย มาดูกันว่า Design Concept สื่ออะไรบ้าง

สีแดง = ธาตุไฟ ไม้ตระกูล BLX ทั้งหมดถูกออกแบบโดยใช้คุณลักษณะของธาตุทั้ง 4 ดิน น้ำ ลม ไฟ
สีดำ+ทอง = สีดั้งเดิมของไม้ Wilson ตระกูล Pro Staff
ลายเส้นขาวแดง = 1). สีธงชาติ Swiss ถ้าไม่มีคู่สีนี้ Federer คงไม่ยอมแน่นอน(มั๊ง) หรือ 2). ประเทศญี่ปุ่นซึ่งมีภูมิประเทศที่เต็มไปด้วยภูเขาไฟ แล้ว BLX เป็นเทคโนโลยีของวัสดุที่มีส่วนประกอบเป็น Karophite กับเส้นไยหิน Basalt ซึ่งเป็นหินภูเขาไฟนั่นเอง (อันนี้มั่วเอา)





Update 2/20/2010: วันนี้ได้ลองตีแป๊บนึงครับ ผมขึ้นเอ็นแบบ hybrid แบบเดิมคือ
+ เส้นตั้งเป็น Babolat VS Touch 16 ที่ 48 ปอนด์
+ เส้นนอนเป็น Luxilon ALU Power Rough 48 ปอนด์เช่นกัน

โดยทั่วไปผมคล้ายๆกับ K90 มาก มีข้อแตกต่างประมาณ 2 อย่างที่รู้สึกได้

1. Feel: เวลาอัดแรงๆ BLX90 ยังคงความเป็น Rock Solid & Stable คล้ายๆกับ K90 แต่ที่ต่างกันคือ "เสียง" ที่ทุ้มและเงียบกว่า (เสียงแหลมจากเอ็น ALU หายไป) แต่มันก็ไม่ถึงกับเงียบกริบเหมือนติด dampener นะ ผมจำได้ว่าตอนที่ขึ้น hybrid ชุดเดียวกันนี้บน K90 จะให้เสียงที่สดและแหลมกว่า ในขณะที่ BLX90 จะออกแนวทุ้มและเงียบคล้ายๆกับ Pro Staff 85 หรือ Pro Staff 95 Classic

1.1 นอกเรื่องนิดนึง: ตรงเรื่อง Feel ของ BLX90 นีผมขอมาคอนเฟิร์มอีกทีดีกว่า เพราะวันนี้ผมมัวแต่ติดใจกับการทดลองเอ็น MSV Multi Q10 ที่ขึ้นบน PC600 มากกว่า เอ็นตัวนี้น่าสนใจมากเพราะมันมีคุณสมบัติของเอ็นหลายๆประเภทอยู่ในตัวเดียวกัน ...ใครที่หาเอ็น multi ที่มีตวามยืดหยุ่นสูง power ดีๆเหมือน poly และ feel ออกแนวแน่นและคม (firm & crisp) ต้องตัวนี้เลยครับ แต่น่าเสียดายว่าที่เมืองไทยจะไม่นำเข้า http://msvtennis.com/multi-q10/25-multi-q10.html

2. Balance: ผมรู้สึกกว่า BLX90 หัวเบากว่า K90 นิดนึง เพราะผมตีแบ็คแฮนด์มือเดียวได้ง่ายขึ้น ตรงนี้ผมติดใจมากๆเพราะมันให้ความรู้สึกว่าคล่องตัวคล้ายๆกับ Pro Staff 85 (แถม feel ก็คล้ายๆกันด้วย) เลยตีแต่ backhand ซะส่วนใหญ่ แต่พอเวลาตี Forehand ผมยังปรับ timing ไม่ค่อยได้ เลยตีไม่ค่อยโดน sweet zone

วันนี้เอาไว้เท่านี้ก่อนนะครับ ...









Update 2/25/2010

Feel: เปลี่ยนไปนิดหน่อย เสียงเงียบลงคล้ายๆ Wilson PS85 ไม่ดังเปรี้ยงปร้างเหมือน K90 วันนี้ผมก็เพิ่งเอาไปลงคอร์ทมาอีกรอบแล้วก็ตีอัดกับ Knocker จะว่าไปแล้วมันก็นุ่มใช้ได้เหมือนกันนะ

Ground Stroke: Forehand ตีได้หนักแน่น ลึกถึงท้ายคอร์ท และแม่นดี วันนี้ผมตีเน้น Cross-Court เกือบตลอด ส่วน Backhand มือเดียวก็ตีพลาดน้อยลง แป๊กน้อยลงมากและวางลูกฉีก Cross-Court ได้ง่ายกว่า K90 (Cross อีกแล้ว) ไม่รู้ทำไมเหมือนกันว่าทำไมไม้นี้มันตี Cross ได้สนุกกว่าไม้อื่น ผมเริ่มติดใจแล้วเหมือนกัน แต่พอตีตรงๆหรือพยายามไล่เส้นก็ไม่มีอะไรโดดเด่นมากนัก คราวหน้าจะเริ่มลอง Spin กับ Slice นะครับ :)

Volley: ได้ลองแป๊บนึง ผมว่ามันไม่ค่อยคล่องเท่าไหร่เพราะไม่มันหนัก แต่ถ้าเป็น half-volley นี่จะบังคับทิศทางได้ดี มีข้อดีอย่างนึงคือหน้าไม้นิ่งมากๆ

Paint Quality: พอๆกับ K90 คุณภาพสีของ Wilson ยังไงก็สู้ Head หรือ Volkl ไม่ได้แน่นอน ผมก็กลัวมันถลอกเหมือนกัน แต่เชื่อเหอะว่าโดยรวมๆไม้มันดูดีกว่าในรูปแน่นอน โดยเฉพาะด้านสีดำที่มีเขียน BLX เห็นแล้วนึกถึงพวกโฆษณาช็อคโกแล็ตสวิสอยูเหมือนกัน






เช้านี้ลองรื้อกริปดู โอ้โห... สีของหนังหลุดติดมาด้วย

ด้านในของกริปยัดโฟมมาเต็มๆ น่าจะเป็นที่มาของ Muted Feel และเสียงที่หายไป...

No comments:

Post a Comment