Pages

Sunday, May 22, 2011

DONNAY X-Orange 99

Rating:★★★★
Category:Other
ครั้งนี้เป็นการทดลอง DONNAY X-Orange 99 ครั้งที่ 2 ของผมแล้ว ครั้งแรกเมื่อตอนตุลาคมปีที่แล้ว ตอนนั้นมีไม้ลอง 10 กว่าตัวมั่วไปหมด เลยยังจับ feel ของ X-Orange 99 ไม่ได้ แต่เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาได้ลองตีไม้ตัวนี้ไปครั้งรวมๆแล้วก็สองชั่วโมงกว่า ได้ผลดังนี้ครับ



Set-Up: ผมไม่ได้ถ่วงไม้ด้วย Slide Weight และ butt cap แต่อย่างได แต่จะพิเศษที่เอ็นนิดนึงคือผมได้เอ็น prototype ซึ่งเป็นเอ็น poly ขนาด 16L หน้าตัดห้าเหลี่ยมที่มีคุณสมบัติคล้ายกับ Solinco Tour Bite แต่นุ่มกว่านิดนึง แล้วก็มีสีสันที่สะดุดตามาก



Ground stroke: X-Orange 99 ไม่ใช่ไม้สำหรับการตีแบบแรลลี่นานๆแน่นอน เพราะว่ามันเป็นไม้ที่ stiff มาก ถึงแม้ว่า stiffness rating (70RA) จะเท่ากับ X-Platinum 99 Ground stroke ของ X-Orange 99 หนักแน่น plow-thru สูงเมื่อเทียบกับไม้ 300g ตัวอื่นๆ แต่มันก็ไม่ได้นุ่มนวลเหมือนไม้ Donnay ตัวอื่นๆเช่น Red 99, Blue 99 และ Black 99 โดยรวมผมว่า feel มันออกแข็งๆนิ่งๆ แต่ก็ไม่มีอาการกระด้างสะท้านแต่อย่างใด อารมณ์คล้ายๆกับ Head Speed Pro แต่ X-Orange 99 ให้ feel มากกว่า สปีดบอลที่ออกจากหน้าไม้ถือว่าเด็ดขาดใช้ได้ โดยเฉพาะ forehand ลูก ground stroke วิ่งไปได้ลึกถึงเส้น baseline อย่างไรก็ตาม X-Orange 99 ยังขาดรสชาดในการตี ground stroke จาก baseline ซึ่งไม้ที่อ่อนกว่าจะทำได้ดีกว่า ส่วน Backhand ผมไม่ค่อยได้ตีเพราะ Orange 99 มันยั่วให้อ้อมมาตีลูก forehand มากกว่า พยายามจะลอง backhand มือเดียวเหมือนกันแต่ไม่ค่อยเข้ากรอบเท่าไหร่ backhand สองมือยังโอเคกว่า อารมณ์เหมือนตอนพยายามตี backhand มือเดียวกับไม้ Babolat Pure Drive เลย... เอาเป็นว่าไม้ตัวนี้น่าจะเหมาะกับคนที่ต้องการความเด็ดขาดของ forehand เพื่อจบแต้มเร็วๆมากกว่าการยื้อ ground storke นานๆครับ

Feel & Power: คล้ายๆกับไม้ DONNAY X-Series ตัวอื่นๆครับ ถ้าเทียบ X-Orange 99 จะให้ feel ที่คมกว่า X-Platinum 99 ซึ่งจะออกมาทางนุ่มนวลสบายแขน นอกจากนี้เสียงฟาดบอลดังได้ใจดีด้วย พวกบ้าพลังน่าจะชอบ ในแง่ Power ผมว่าสูงกว่าตัว X-Yellow 99 แต่น้อยกว่า X-Dual Platinum 99 ครับ แต่มันก็มี power ที่เด็ดขาดเพียงพอที่จะยิง forehand winner แบบหวังผลได้ เด็กแข่งหลายๆคนบอกว่าเอกลักษณ์อย่างนึงของไม้ DONNAY เมื่อเทียบกับไม้อื่นๆคือ "ลูกพุ่งกว่า" ดู Power Map ด้านล่างครับ

Power Map




Volley: เยี่ยมครับ การตี volley ทำได้เนียนและหนักแน่นกว่า X-Yellow 99 หน้าไม้มีความคล่องตัวสูงและนิ่งมากช่วยให้การตี volley ได้คงเส้นคงวา แต่ก็ยังไม่เท่า X-Blue 94 ข้อแตกต่างคือ X-Orange 99 จะให้ feel ที่คมกว่าในขณะที่ X-Blue 94 จะออกนุ่มๆ (คล้าย feel ของ Wilson Pro Staff) จริงๆแล้วผมชอบ volley ของ X-Orange 99 มากกว่า groundstroke ซะอีก ไม่รู้สิ feel & sound ของ X-Orange 99 มันช่วยกระตุ้นหัวใจดี :)

Spin/Slice: ดีครับแต่ไม่โดดเด่นเท่า X-Yellow 99 แต่ก็ดีกว่าไม้ All-Court ในกลุ่มเดียวกันอันได้แก่ Head Radical MP, Dunlop 300 Tour, Babolat Pure Storm, หรือ Head Speed Pro ส่วน Slice ก็ถือว่าโอเค ลูกมีเหินนิดๆเพราะไม้มันแข็ง power เลยเกินๆไปนิดนึง

Summary: X-Orange 99 ถือว่าเป็นไม้เฉพาะทางครับ เหมาะกับคนที่ชอบความเด็ดขาดในเกม จบแต้มเร็วประมาณ Serve & Volley หรือไม่ก็ Aggressive All-Court แต่ที่แน่ๆมันก็ไม่ใช่เป็นไม้สำหรับคอ baseline 100% อย่างแน่นอน จุดเด่นอยู่ที่การยิง forehand winner ที่เด็ดขาดดีครับ แต่นั่นก็ต้องอาศัยความไวและ footwork ของผู้เล่นในการเข้าบอลด้วยนะ feel & sound ของ X-Orange 99 มีส่วนช่วยเพิ่มความมันส์และกระตุ้นให้ขาเคลื่อนที่ตลอดเวลา (รู้สึก Forever Young ตลอดเวลา) ใครที่กำลังหาไม้ใหม่มาแทน Head Radical MP, Dunlop 300 Tour, Babolat Pure Storm หรือ Head Speed Pro ก็น่าจะลอง DONNAY X-Orange 99 ดูครับ

DONNAY X-Yellow 99

Rating:★★★★★
Category:Other
เมื่อสองอาทิตย์ก่อนตั้งใจว่าจะเอา DONNAY X-Yellow 99 กับ X-Dual Silver Lite ไปเล่นเปรียบเทียบกันแต่ปรากฎว่าดันไปติดใจใน feel & flex ของ X-Yellow เลยเล่นไม้นี้ไปอย่างเดียวเต็มเหยียด 2 ชั่วโมง แล้วก็เผอิญว่าเอ็นบน Silver Lite ม้นตายไปแล้วด้วยก็เลยไม่ได้เล่นอะไรมากมายนัก



Set-Up: ผมขึ้นเอ็นใหม่เลยครับ ด้วย Solinco Tour Bite ที่ 55 lbs เพราะฉะนั้นความสด ความเด้ง และ ความคมยังมีอยู่ครบ แล้วผมก็ไม่ได้ถ่วง butt cap และ ติด Slide Weight ด้วย

Ground Stroke: ผมเริ่มด้วยการตี ground stroke ด้วยสปีดบอลตั้งแต่ช้าไปถึงเร็ว X-Yellow 99 น่าจะเหมาะกับสปีดช้าจนถึงปานกลาง เพราะว่าไม้น้ำหนักเบาไม่มีมวลพอที่จะต้านบอลแรงๆได้ดีเหมือน Red 99 หรือ Blue 99 ซึ่งจะเหมาะกับการตี fast & heavy groundstroke มากกว่า แต่ข้อได้เปรียบของเฟรมที่บางช่วยให้เร่งหัวไม้ได้ง่ายมาก ใครที่ตีสปินน่าจะชอบ ตอนบอลกระทบเอ็นให้ feel ที่แน่นและเต็มกว่าไม้น้ำหนักเบาตัวอื่นๆ การคอนโทรลบอลจากมุมนึงไปอีกมุมนึงทำได้ง่ายมาก แต่ผมต้องเปลี่ยนวิธีการจับกริปนิดนึง คือเมื่อก่อนผมตีแต่ไม้หนักอย่าง X-Blue 99 เลยจับไม้หลวมๆซะปลายสุดเลย แต่พอมาตีไม้เบาลงก็ขยับขึ้นมาประมาณ 1/4" ให้สามารถกำกริปได้แน่นขึ้นและส่งผลให้เปลี่ยนหน้าไม้ได้เร็วขึ้น ไม่รู้ว่าคนอื่นจับกริปแบบนี้หรือเปล่า แต่อย่างน้อยวิธีนี้มัน work กับผมโดยเฉพาะกับ X-Yellow 99

Power: มันไม่ได้มี power มากล้นในการตีแฟลท จริงๆแล้วผมไม่คิดว่าไม้นี้เหมาะกับคนที่ชอบยิงแฟลทเป็นหลักด้วยซ้ำไปเพราะน้ำหนักและ string pattern มันไม่ได้เอื้ออำนวยเท่าไหร่ วิธีในการรีดเอา power จากไม้ตัวนี้คือการตีแบบกึ่งแฟลทกึ่งสปิน โดยเน้นการถ่ายน้ำหนักและการเร่งหัวไม้ซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นของ X-Yellow 99 ที่น้ำหนักเบาและเฟรมบาง โดยปกติผมใช้ไม้หนักๆซึ่งน้ำหนักไม้จะช่วยเสริม power แต่พอมาตีไม้เบาขึ้นผมต้องโถมตัวตีมากขึ้น จะมายืนตีนิ่งๆชิลๆไม่ได้แล้ว ก็ดีครับ X-Yellow 99 ถือว่าเป็นเครื่องลดน้ำหนักได้ดีทีเดียว :) ในแง่ของการบล็อคลูกหนักจากฝั่งตรงข้าม X-Yellow 99 สามารถทำได้ดีเหมือนไม้หนักๆครับ

Power Map


Spin: สปินเป็นไฮไลท์ของ X-Yellow 99 ครับ ผมตีสปินที่ระดับเข่าและเอวได้ดีเหมือนกับตอนที่ใช้ Babolat AeroPro Drive GT แต่ผมได้ ball feel ที่ดีกว่าจาก X-Yellow 99 เนื่องจากบอลจมอยู่ในหน้าไม้นานกว่า AeroPro Drive GT ซี่ง feel แบบนี้หาไม่ได้ในไม้สปินตัวอื่นๆเช่น Babolat AeroPro Drive GT, Head Extreme MP หรือ Prince EXO3 Tour ไม้ที่ให้ feel ที่ใกล้เคียงที่สุดคือ Head Speed Pro แต่นั่นก็หนักเกิน

Volley/Slice: หลายๆคนอาจมีคำถามว่า X-Yellow มัน volley ไม่ดีจริงหรือ ผมก็ทดสอบตัวนี้อยู่นานเหมือนกัน X-Yellow 99 ไม่ได้ volley ได้สุดยอดเหมือน X-Blue 94 หรือ Wilson Pro Staff มันคนละอารมณ์เลย ถ้าชอบ volley แบบกำไม้หลวมๆตีเนียนๆวางลูกแม่นๆก็ต้องยกให้ X-Blue 94 แต่ถ้าชอบกำไม้แน่นๆและหลอกหน้าไม้เคาะ volley ลึกๆผมว่า X-Yellow มันส์กว่า เนื่องจากว่ามันเป็นไม้ที่น้ำหนักเบา ความคล่องตัวในการเปลี่ยนหน้าไม้เลยสูงตามไปด้วย ถามว่า Stable มั๊ย ถ้าไม่โดน sweet spot ก็มีอาการสั่นครับ แต่ข้อดีคือลูกไม่ปลิ้นหลุดหลังหรือข้างๆ การถ่ายน้ำหนักและ footwork จำเป็นอย่างยิ่งในการตี volley ให้ลึก ส่วน slice ก็ทำได้ดีเช่นกัน ลูกคมวิ่งเลียดเน็ทแต่สปีดไม่สูงเหมือน slice ด้วย X-Blue 94

Summary: DONNAY X-Yellow 99 เป็นไม้ที่จัดอยู่ในกลุ่ม "ตีมันส์" ตัวนึงในขณะเดียวกันก็เหมาะกับคนที่เล่น Aggressive All-Court ครับ การตีแบบกึ่งแฟลทกึ่งสปินมีประสิทธิภาพดีมาก ตัวแร็กเก็ตทำจากวัสดุผสม XeneCore ทำให้โครงสร้างมีแกนในที่ตันส่งผลให้เพิ่ม feel ในการตีสปินได้มากกว่าไม้สปินตัวอื่นๆ และด้วยความที่มันคล่องตัวมากๆและให้ ball feel ที่ดี การตีลูกจากมุมนึงไปมุมนึงเลยเป็นเรื่องที่ง่าย ผมคิดว่า X-Yellow 99 เป็นไม้ control ที่ดีตัวนึงในกลุ่มไม้เบาด้วยกัน แต่ในเรื่อง power นั้น X-Yellow ต้องอาศัยการถ่ายน้ำหนักมาช่วย ถ้าคาดหวังจะยิงอัด winner แรง ผมว่าไป X-Dual Platinum 99 ดีกว่า คนที่ใช้ Wilson KTour 95, BLX Tour 95, BLX Surge หรือ Dunlop AG500 แล้วต้องการไม้ที่ให้ feel ในการตีที่มากขึ้น แนะนำให้ลอง X-Yellow 99 ครับ



ทดสอบครั้งที่ 2: ผมลองถ่วงด้วย Slide Weight แบบ 3g และเพิ่ม butt cap อีก +10g ผลปรากฎว่าหน้าไม้อืดอย่างเห็นได้ชัด แต่ว่า stability ในการตี volley สูงขึ้นมาก Ground stroke ก็ตีได้หนักหน่วงขึ้น ราบรื่นขึ้น แล้วผมก็รู้สึกว่าไม้อ่อนตัวมากขึ้นด้วย เป็นไปได้ว่าหัวไม้ที่หนักขึ้นอาจจะทำให้รู้สึกว่าไม้อ่อนตัวลงระหว่างตีบอล หลังจากที่ตีไปได้ไม่นานผมคิดว่าตีแบบไม่ถ่วงจะดีกว่า ผมชอบความแน่น เบา และคล่องตัวแบบเดิมๆมากกว่า ถ้าผมต้องถ่วง 16g บนไม้ X-Yellow 99 ผมไปใช้ X-Red 99 ดีกว่า