Rating: | ★★★★★ |
Category: | Other |
Set-Up: ผมขึ้นเอ็นใหม่เลยครับ ด้วย Solinco Tour Bite ที่ 55 lbs เพราะฉะนั้นความสด ความเด้ง และ ความคมยังมีอยู่ครบ แล้วผมก็ไม่ได้ถ่วง butt cap และ ติด Slide Weight ด้วย
Ground Stroke: ผมเริ่มด้วยการตี ground stroke ด้วยสปีดบอลตั้งแต่ช้าไปถึงเร็ว X-Yellow 99 น่าจะเหมาะกับสปีดช้าจนถึงปานกลาง เพราะว่าไม้น้ำหนักเบาไม่มีมวลพอที่จะต้านบอลแรงๆได้ดีเหมือน Red 99 หรือ Blue 99 ซึ่งจะเหมาะกับการตี fast & heavy groundstroke มากกว่า แต่ข้อได้เปรียบของเฟรมที่บางช่วยให้เร่งหัวไม้ได้ง่ายมาก ใครที่ตีสปินน่าจะชอบ ตอนบอลกระทบเอ็นให้ feel ที่แน่นและเต็มกว่าไม้น้ำหนักเบาตัวอื่นๆ การคอนโทรลบอลจากมุมนึงไปอีกมุมนึงทำได้ง่ายมาก แต่ผมต้องเปลี่ยนวิธีการจับกริปนิดนึง คือเมื่อก่อนผมตีแต่ไม้หนักอย่าง X-Blue 99 เลยจับไม้หลวมๆซะปลายสุดเลย แต่พอมาตีไม้เบาลงก็ขยับขึ้นมาประมาณ 1/4" ให้สามารถกำกริปได้แน่นขึ้นและส่งผลให้เปลี่ยนหน้าไม้ได้เร็วขึ้น ไม่รู้ว่าคนอื่นจับกริปแบบนี้หรือเปล่า แต่อย่างน้อยวิธีนี้มัน work กับผมโดยเฉพาะกับ X-Yellow 99
Power: มันไม่ได้มี power มากล้นในการตีแฟลท จริงๆแล้วผมไม่คิดว่าไม้นี้เหมาะกับคนที่ชอบยิงแฟลทเป็นหลักด้วยซ้ำไปเพราะน้ำหนักและ string pattern มันไม่ได้เอื้ออำนวยเท่าไหร่ วิธีในการรีดเอา power จากไม้ตัวนี้คือการตีแบบกึ่งแฟลทกึ่งสปิน โดยเน้นการถ่ายน้ำหนักและการเร่งหัวไม้ซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นของ X-Yellow 99 ที่น้ำหนักเบาและเฟรมบาง โดยปกติผมใช้ไม้หนักๆซึ่งน้ำหนักไม้จะช่วยเสริม power แต่พอมาตีไม้เบาขึ้นผมต้องโถมตัวตีมากขึ้น จะมายืนตีนิ่งๆชิลๆไม่ได้แล้ว ก็ดีครับ X-Yellow 99 ถือว่าเป็นเครื่องลดน้ำหนักได้ดีทีเดียว :) ในแง่ของการบล็อคลูกหนักจากฝั่งตรงข้าม X-Yellow 99 สามารถทำได้ดีเหมือนไม้หนักๆครับ
Power Map
Spin: สปินเป็นไฮไลท์ของ X-Yellow 99 ครับ ผมตีสปินที่ระดับเข่าและเอวได้ดีเหมือนกับตอนที่ใช้ Babolat AeroPro Drive GT แต่ผมได้ ball feel ที่ดีกว่าจาก X-Yellow 99 เนื่องจากบอลจมอยู่ในหน้าไม้นานกว่า AeroPro Drive GT ซี่ง feel แบบนี้หาไม่ได้ในไม้สปินตัวอื่นๆเช่น Babolat AeroPro Drive GT, Head Extreme MP หรือ Prince EXO3 Tour ไม้ที่ให้ feel ที่ใกล้เคียงที่สุดคือ Head Speed Pro แต่นั่นก็หนักเกิน
Volley/Slice: หลายๆคนอาจมีคำถามว่า X-Yellow มัน volley ไม่ดีจริงหรือ ผมก็ทดสอบตัวนี้อยู่นานเหมือนกัน X-Yellow 99 ไม่ได้ volley ได้สุดยอดเหมือน X-Blue 94 หรือ Wilson Pro Staff มันคนละอารมณ์เลย ถ้าชอบ volley แบบกำไม้หลวมๆตีเนียนๆวางลูกแม่นๆก็ต้องยกให้ X-Blue 94 แต่ถ้าชอบกำไม้แน่นๆและหลอกหน้าไม้เคาะ volley ลึกๆผมว่า X-Yellow มันส์กว่า เนื่องจากว่ามันเป็นไม้ที่น้ำหนักเบา ความคล่องตัวในการเปลี่ยนหน้าไม้เลยสูงตามไปด้วย ถามว่า Stable มั๊ย ถ้าไม่โดน sweet spot ก็มีอาการสั่นครับ แต่ข้อดีคือลูกไม่ปลิ้นหลุดหลังหรือข้างๆ การถ่ายน้ำหนักและ footwork จำเป็นอย่างยิ่งในการตี volley ให้ลึก ส่วน slice ก็ทำได้ดีเช่นกัน ลูกคมวิ่งเลียดเน็ทแต่สปีดไม่สูงเหมือน slice ด้วย X-Blue 94
Summary: DONNAY X-Yellow 99 เป็นไม้ที่จัดอยู่ในกลุ่ม "ตีมันส์" ตัวนึงในขณะเดียวกันก็เหมาะกับคนที่เล่น Aggressive All-Court ครับ การตีแบบกึ่งแฟลทกึ่งสปินมีประสิทธิภาพดีมาก ตัวแร็กเก็ตทำจากวัสดุผสม XeneCore ทำให้โครงสร้างมีแกนในที่ตันส่งผลให้เพิ่ม feel ในการตีสปินได้มากกว่าไม้สปินตัวอื่นๆ และด้วยความที่มันคล่องตัวมากๆและให้ ball feel ที่ดี การตีลูกจากมุมนึงไปมุมนึงเลยเป็นเรื่องที่ง่าย ผมคิดว่า X-Yellow 99 เป็นไม้ control ที่ดีตัวนึงในกลุ่มไม้เบาด้วยกัน แต่ในเรื่อง power นั้น X-Yellow ต้องอาศัยการถ่ายน้ำหนักมาช่วย ถ้าคาดหวังจะยิงอัด winner แรง ผมว่าไป X-Dual Platinum 99 ดีกว่า คนที่ใช้ Wilson KTour 95, BLX Tour 95, BLX Surge หรือ Dunlop AG500 แล้วต้องการไม้ที่ให้ feel ในการตีที่มากขึ้น แนะนำให้ลอง X-Yellow 99 ครับ
ทดสอบครั้งที่ 2: ผมลองถ่วงด้วย Slide Weight แบบ 3g และเพิ่ม butt cap อีก +10g ผลปรากฎว่าหน้าไม้อืดอย่างเห็นได้ชัด แต่ว่า stability ในการตี volley สูงขึ้นมาก Ground stroke ก็ตีได้หนักหน่วงขึ้น ราบรื่นขึ้น แล้วผมก็รู้สึกว่าไม้อ่อนตัวมากขึ้นด้วย เป็นไปได้ว่าหัวไม้ที่หนักขึ้นอาจจะทำให้รู้สึกว่าไม้อ่อนตัวลงระหว่างตีบอล หลังจากที่ตีไปได้ไม่นานผมคิดว่าตีแบบไม่ถ่วงจะดีกว่า ผมชอบความแน่น เบา และคล่องตัวแบบเดิมๆมากกว่า ถ้าผมต้องถ่วง 16g บนไม้ X-Yellow 99 ผมไปใช้ X-Red 99 ดีกว่า
No comments:
Post a Comment