Pages

Tuesday, December 30, 2008

Volkl PowerBridge 10 325g VS. Volkl PowerBridge 10 295g (Demo)

Rating:★★★
Category:Other


Volkl Powerbridge 10 (325g)

Original Review: ลองมาแล้วครับ ไม้ control ตัวล่าสุดของ Volkl ที่มีสีสันสวยงามตามสไตล์ของ Volkl แต่พอเอามาลองเล่นดู บอกได้คำเดียวเลย "แข็งโป๊ก" ทั้งก้านและหัว (จริงๆแล้วไม้นี้น่าจะชื่อ Viagra PowerBridge มากกว่า) นอกจากนี้ยังไม่ค่อย stable แล้วแถมแรงสั่นสะเทือนยังเข้ามาถึงแข็นด้วย (ทั้งๆที่ grip เป็นแบบลด vibration) ไม่รู้ว่าทั้งหมดนี่เป็นเพราะเอ็น Hybrid ของ Luxilon (Alu Power กับ Supersense อะไรซักอย่างเนี่ยแหละ) หรือเปล่า แต่ที่รู้คือไม่ค่อยเข้ามือ

Spec: http://www.tennis-warehouse.com/descpageRCVOLKL-VPB10.html


Ground stroke: พอจับเหวี่ยงๆดูก็รู้สึกได้เลยว่าไม้หัวเบามาก ซวิงง่ายทั้ง Forehand & Backhand ตามสไตล์ของ Volkl อันนี้ถือว่าเป็นเอกลัษณ์ของไม้ Volkl เลยก็ว่าได้ แต่ก็ไม่ค่อยมีอะไรพิเศษครับ เหมาะกับคนที่มี Compact swing style ครับ

Power: ต่ำมากที่สุดเท่าที่เคยใช้มา ผมเคยใช้ Boris Becker 11 mid ซึ่ง Power Rating ต่ำกว่านี้ยังรู้สึกว่า BB11 มันให้ power เยอะกว่าอีกแล้วก็นุ่มกว่ามากๆด้วย อย่างที่บอกครับ เอ็นอาจจะตึงและแข็งเกินไปเลยไม่ได้ power อย่างที่คิด

Feel: แข็งมาก ไม่มีความอ่อนนุ่มเหมือน DNX ตัวก่อนๆเลย ไม่รู้ว่าจะโทษเอ็นหรือไม้ดี แถม Vibration สะท้านมาถึงต้นแขน ตัวเฟรมค่อนข้างบางไม่ stable เท่าไหร่

Rating: เอาไปแค่สองดาวพอ ถ้าคุณสนใจไม้คอนโทรลหน้าประมาณ 98 sq.in มีตัวเลือกอื่นที่น่าสนใจกว่าคือ Wilson KBlade 98 หรือไม่ก็ Head Microgel Prestige Mid+ ครับ

บทสรุปของ Original Review: ผมว่าคุณต้องมาลอง demo เองดีกว่าครับ ในความรู้สึกผมแล้วผมว่าโครงสร้างไม้โดยรวมมันถูกออกแบบมาไม่ลงตัว เข้าใจว่า Volkl จะพยายามรีดไม้ให้ได้บางที่สุดแล้วทดแทนคุณสมบัติทางกายภาพที่หายไปด้วยเทคโนโลยีต่างๆเช่น DNX กับ PowerBridge เรื่องแบบนี้ผมก็เคยเห็นใน Case ของ Dunlop AG100 ครับ แฟนๆ Volkl อย่าว่ากันนะ อย่างไรก็ตาม PowerBridge 10 มันอาจจะเหมาะกับแค่บางคนเท่านั้นจริงๆ

Update (4/11/2009): วันนี้ได้มีโอกาสลองอีกครั้งนึงแต่คราวนี้เปลี่ยนเอ็นใหม่ให้มันุ่มนวลขึ้น เป็นเอ็น Co-Poly ของ Boris Becker ที่นุ่มนวลก็ปรากฎว่าดีขึ้นมาพอสมควรครับ Groundstroke ตีได้ง่ายขึ้นไม่ต้องหวดกันสุดแรงเหมือนก่อน แต่ก็ยังรู้สึกว่าตรง shaft ยัง stiff อยู่ดี..........แต่ยังไงก็แนะนำให้ไป demo กันดูครับ

Rating: คราวนี้เอาไป 3 ดาวครึ่ง




Volkl Powerbridge 10 (295g)
หลังจากที่ demo ตัว PB10 325g แล้วช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาก็ได้ลอง Volkl Powerbridge 10 ตัวเบา เท่าที่ลองตีมาก็พบว่าแตกต่างกันเยอะพอสมควรครับ

Spec: http://www.tennis-warehouse.com/descpageRCVOLKL-VPB10L.html


Feel: คล้ายๆกับตัวหนักครับ ถ้าตีโดน sweet zone เต็มๆก็จะได้ feel ที่ดีมาก เหมือนตีลูกที่กำลังจะแตก แต่ก็ไม่ค่อยจะ stable เท่าไหร่ถ้าตีหลุด sweet zone ไปแค่นิดเดียว ไม้ Volkl หลายๆตัวที่ได้ลองมาก็มีปัญหาแบบนี้หมด ไม่ว่าจะหนักหรือเบา สงสัยว่า Volkl จะเน้นเรื่องการออกแบบให้ซวิงง่ายมากกว่า ถ้าเป็นไม้ Tour หนักๆนี่พี่แกก็จะรีด cross section ซะบางเพื่อให้ลู่ลมมากที่สุดแต่ก็ไม่ได้มีการเสริมน้ำหนักตรง 3 & 9 นาฬิกาอย่างเพียงพอ ส่วนถ้าเป็นไม้ Tweener ก็ทำซะเบาจนเหมือนไม่มีเนื้อหนังกันเลย

Groundstroke: อย่างที่บอก Beam ค่อนข้างบาง (19mm) และแคบทำให้ซวิงได้ง่าย Aerodynamic มากๆสำหรับไม้ Tour ข้อแตกต่างจากตัว 325g คือก้านไม้อ่อนกว่าตัวหนักอย่างชัดเจน ทำให้ตี groundstroke ได้ง่ายกว่า สนุกกว่า backhand มือเดียวตีได้ง่ายกว่าตัวหนัก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องตีแม่นพอสมควรนะ

Power: ต่ำพอๆกับตัวหนักเลยครับ Plow-thru ก็ต่ำ แต่ด้วยความที่มันซวิงง่ายกว่า เลยเร่ง speed หัวไม้ได้เร็วกว่า ก็เลยพอจะได้ power เพิ่มขึ้นมาบ้าง Powerbridge 10 ทั้งสองตัวไม่ใช่ไม้ประเภทที่สร้าง power จากโมเมนตัมจากน้ำหนักไม้ เพราะฉะนั้นคุณต้องกำไม้แน่นๆ (เพราะมันไม่ค่อย stable) แล้วก็ซวิงสั้นๆเร็วๆถึงจะรีดพลังออกมาได้ครับ

บทสรุป: ผมชอบตัวเบามากกว่านะ ด้วยความที่มันมี flexibility ที่มากกว่าตัวหนักทำให้รู้สึกว่ามันตีได้มันส์กว่า แต่ถ้าเป็นเรื่องของ Plow-Thru ตัวหนักก็ต้องดีกว่าอยู่แล้วครับ แต่ยังไงก็ตามไม้ทั้งคู่ก็ยังมีปัญหาเรื่อง stability อยู่ คงต้องมีการถ่วงตะกั่วเพิ่มตรง 3 และ 9 นาฬิกาเพื่อเพิ่มความนิ่งของหน้าไม้ครับ

Rating: คิดว่าประมาณ 3.5 เท่ากับตัวหนักนั่นแหละ

Demo คราวนี้ได้ลองทีเดียว 4 ไม้เลย ที่ปิ๊งๆเลยก็คงจะเป็น Boris Becker Pro ที่ดูจากภายนอกไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไหร่ แต่พอได้ลองตีถึงกับวางไม่ลงเลย ต้องขอขอบคุณร้าน Sport Nova บางกรวยที่ให้ยืมไม้มาลองครับ

1 comment:

  1. มาอ่านค่ะ ในฐานะที่ชอบเทนนิสเหมือนกัน
    แ่ต่ไม่มีความรู้เรื่องไม้เลย :)

    ReplyDelete