Pages

Sunday, April 19, 2009

Popular Hybrid: VS Gut + ALU Power and Xcel + ALU Power

Rating:★★★★
Category:Other
Hybrid Strings: เคยสงสัยกันมั๊ยครับว่าทำไมช่วงหลังๆนี่พวกนักเทนนิสดังๆ ชอบมาขึ้นเอ็นแบบผสม Hybrid (ซึ่งเน้นความทนทานเป็นหลัก) ทั้งๆที่นักเทนนิสพวกนั้นก็น่าจะมีเงินมากพอที่จะขึ้น Natural Gut ได้ทุกวัน นั่นสิ...ผมก็สงสัยเหมือนกัน อีกอย่างนึงคือเรื่องของ Innovation ที่มีการพูดกันมากก็คงหนีไม่พ้นเอ็นของ Luxilon Big Banger ที่แม้กระทั่ง Agassi เองก็ออกมาพูดว่า Racquet Technology ไม่ค่อยมีผลต่อรูปแบบการเล่นเท่าไหร่ แต่ด้วย String Technology ของเอ็น Luxilon ทำให้นักเทนนิสสมัยนี้หวดลูกกันได้แรงขึ้นหนักขึ้นโดยคอนโทรลไม่เสีย เกมส์สมัยนี้เลยเป็น Power Baseliner ซะมากกว่า Server & Volley เอาล่ะมาเข้าเรื่องกันดีกว่า

Hybrid #1: Babolat VS Touch 17 (main 50 ปอนด์) กับ Luxilon ALU Power Original 16 (cross 48 ปอนด์)
ผมก็นั่ง research อยู่นานพอสมควรเพื่อที่จะดูว่าเราน่าจะลองอะไรบ้าง โดยที่ไม่ต้องเสียเงินกันมากมาย สุดท้ายก็มาจบที่ชุดของ Federer (Babolat VS Touch กับ Luxilon ALU Power) เพราะใหนๆก็เราก็มี US K90 แล้วนี่ เอาซะหน่อย ทีนี้ก็ต้องมาดูว่าสั่งที่ใหนได้ถูกสุด ก็สุดท้ายต้องสั่งเอ็น Gut มาจาก Midwest Sports แล้วให้ส่งไปที่บ้านเพื่อนใน Chicago แล้วก็ให้เพื่อนมัน ship มาอีกที แวะหลายบ้านเหมือนกันก่อนจะมาจบที่นี่ จริงๆแล้วสั่งตรงจาก Tenniswarehouse จะได้ถูกกว่าครับ แต่เผอิญว่าผมได้เครดิตลด $20 ที่ Midwest อยู่ก็เลยต้งรีบใช้ให้หมด ส่วน ALU นี่ผมซื้อที่ Sport Nova นี่แหละครับ รวมค่าขึ้นแล้วถูกสุด


Power: ดีครับ เอ็นสปริงลูกออกได้ดี แต่สิ่งที่ผมรู้สึกได้ถึงเอกลักษณ์ของ Gut คือ power ที่ได้ " มันสดและมีชีวิตชีวา (fresh and lively) " กว่าเอ็นอื่นๆที่เคยลองมาอย่างรู้สึกได้เลย ยิ่งเป็น K90 ด้วยนี่เหมือนกับเอาเอ็นไม้เทนนิสมาผูกกับเอ็นแขนเลยทีเดียว (เวอร์มั๊ย) ตีแล้วไม่ค่อยง่วง :)
Feel: หน้าเอ็นโดยรวม stiff กว่า multi ทั้งหน้าอย่างเห็นได้ชัด และ feel มันออก modern มากกว่าดิบๆ จริงๆอยากรู้เหมือนกันนะว่าถ้าขึ้นแบบเต็มหน้ามันจะเป็นยังไง เห็นหลายๆคนบอกว่านุ่มนักนุ่มหนา เดี๋ยวต้องลองซะแล้ว...
Sound: ออกประมาณแบบนี้เลย http://www.youtube.com/watch?v=zZ2zmsPIMXI ป๊องๆกังวาลๆยังไงก็ไม่รู้ เหมือนมีลวดอยู่ข้างใน
Durability: ครึ่งชั่วโมงตัว gut เส้นตั้งก็เริ่มขรุยออกแล้ว เก็บดีกว่า
Price: รวมๆแล้วก็น่าจะประมาณ 960 บาท


โดยทั่วๆไปแล้วเค้านิยมที่จะเอา ALU มาเป็นเส้นตั้ง แต่ผมเอา Gut มาเป็นเส้นตั้งเพราะต้องการ power มากกว่า ก่อนหน้านี้เคยอ่านบทความของ Nate Ferguson มาเค้าบอกว่า 80% ของ character ของเอ็นมาจาดเอ็นเส้นตั้ง


30 นาทีผ่านไป Gut เริ่ม fray ออกมาแล้วครับ ไม่น่าเชื่อว่า VS Touch รุ่นนี้เป็นแบบ Longevity แล้ว


เอ็น Natural Gut นี่ได้ยินมาว่าโดนความชื้นไม่ได้เลย แค่ความชื้นนิดๆหน่อยๆนี่ก็อาจทำให้เอ็นขาดได้ เพราะฉะนั้นควรจะหาถุงมาครอบอีกทีครับ


Hybrid #2: Babolat Xcel Premium 17 (main 52 ปอนด์) กับ Luxilon ALU Power Original 16 (cross 50 ปอนด์)
ชุดที่ 2 นี่ผมไม่ได้ใช้ Gut แล้วครับ เพราะว่า Xcel ที่ขึ้นไว้บน PC600 มันยังดีอยู่ จะตัดก็เสียดาย เลยตัดแค่เส้นนอนแล้วเอา ALU เสียบแทน

Power: ดีครับ มันก็ไม่ได้ต่างจาก multi ล้วนๆหรอกครับ " แต่สิ่งที่ต่างคือตอนที่อัดแรงๆ hybrid ชุดนี้มันจะไม่ค่อยเสียทิศทาง " ตอนนี้ผมเริ่มเข้าใจแล้วว่า ALU มันดียังไง :)
Feel: ต่างจาก multi ตรงที่มันไม่ค่อยดูดลูกเท่าไหร่ ปกติแล้วเวลาตีลูกด้วย PC600 ลูกมันจะจมอยู่ในเอ็นแป๊บนึงก่อนที่จะดีดตัวอกไป แต่พอเป็น hybrid แล้วผมว่ามันไม่ต่างจาก Microgel Prestige เลย
Sound: ป๊องๆเหมือนกันแต่ไม่มากเท่าชุดแรก แต่ถ้าเป็น multi ล้วนๆนี่จะออกปั๊กๆซึ่งผมชอบมากกว่า
Durability: ขึ้นมาเกือบเดือน (ตัด multi เส้น cross ของเดิมที่อายุมากกว่า 3 เดือนทิ้ง แล้วขึ้น ALU แทน) แล้วก็ตีมามากกว่า 3 ชั่วโมงแล้ว สภาพยังปิ๊งอยู่
Price: ประมาณ 600 บาท


เอ็น Hybrid ชุดนี้ไม่มีการเคลื่อนตัวกัดกันแม้ว่าจะหวดหรือสปินหนักๆแค่ใหนก็ตาม ต้องย้ำเลยครับว่าถ้าจะรีดพลังของ ALU Power ออกมาเยอะๆนี่ต้องใส่กันเต็มๆเท่านั้น


รูปนี้ไม่มีอะไรครับ เห็นแสงเงาสวยดี เลยถ่ายเก็บไว้


Hybrid ชุดนี้ลุยมาเยอะกว่า ยังปิ๊งอยู่มันก็อาจจะเป็นเพราะว่า string pattern ที่แน่นกว่าด้วยเหมือนกัน แต่ชุดนี้เวลาอัดเต็มๆแล้ว feel ดีมากๆ ที่สำคัญทิศทางไม่เสีย


บทสรุป (ตามความเข้าใจของผม)
1. Hybrid (Poly+Multi): จะเหมาะกับผู้ที่ต้องการ "ความทนทาน" ของเอ็น เพราะว่าเอ็นที่ต่างกันมันจะ interlock กันได้ดีกว่าทำให้เอ็นไม่ค่อยเคลื่อน โอกาสที่เอ็นจะเสียดสีกันและขาดก็น้อยลง แต่ปัจจัยของชนิดเอ็นมีผลน้อยกว่า string pattern นะครับ เท่าที่ผ่านมาผมพบว่าเอ็นบนไม้หน้า 16x19 (K90) จะโทรมเร็วกว่า 16x20 (KTour) หรือ 18x20 (PC600, PT630, AG200) อย่างเห็นได้ชัดเจน
2. Multi-Filament: เหมาะกับผู้ที่ต้องการ "ความนุ่มนวล" เป็นหลัก ข้อดีของเอ็น multi ที่สำคัญอีกอย่างคือมันจะเป็นเหมือน amplifier ที่ขยาย feel ของไม้เทนนิส ไม้ดี-ไม่ดีนี่เอ็น multi บอกได้ดีทีเดียว เพราะฉะนั้นถ้าใครมีไม้กราไฟต์เก่าๆที่ feel ดีๆ ผมแนะนำ multi ดีกว่าครับ
3. Luxilon ALU: มันเกิดมาเพื่อ hybrid โดยแท้ครับ ถ้าเอาไปขึ้นเต็มๆหน้านี่รับรองมีเกลียดกันแน่นนอน (ผมเคยลอง Volkl PB10 ที่ขึ้น ALU เต็มหน้าปรากฎว่าแข็งโป๊กตีไม่ได้เลย) ที่สำคัญอีกอย่างคือ ALU เหมาะกับผู้ที่ชอบ "ตีอัดหนักๆเท่านั้น" ถ้าหวดไม่แรงไม่หนักพอนี่คุณจะไม่มีวันเข้าใจว่า ALU นี่ feel กับ control มันเยี่ยมแค่ใหน ตรงนี้ต้องย้ำเลยครับว่า ALU ไม่เหมาะกับมันไม่เหมาะกับการเอามาตีเล่นๆขำๆหรือแบบว่าตีแบบลมพัดชายเขาเลย
4. Natural Gut: นอกเหนือจากความสดของ power ทีได้แล้ว ผมยังนึกไม่ออกว่ามันมีข้อดีอะไรอีก แต่ที่รู้ๆคือมันบอบบางมาก ตอนนี้ยังบอกอะไรมากไม่ได้ครับ เพราะผมเพิ่งได้ลอง แต่เดี๋ยวจะมาอัพเดทเรื่อยๆตอนที่ขึ้น Gut แบบเต็มหน้าครับ

1 comment:

  1. อ้ออ ตีไปสี่ห้าเซตก็ขุยขึ้น gut แล้วเหมือนกันครับ

    ReplyDelete