Pages

Tuesday, February 8, 2011

DONNAY X-Blue 94 กับเอ็น Solinco Tour Bite + Vanquish โดย Thai Tennis User

Rating:★★★★
Category:Other


รีวิว DONNAY X-Blue 94 กับเอ็นไฮบริด Solinco Tour Bite กับ Solinco Vanquish รีวิวชุดนี้เป็นของน้องชายวัยฉกรรจ์คนเดิมครับ ต้องขอขอบคุณที่สละเวลาสำหรับการรีวิวในครั้งนี้ครับ

เป็นครั้งแรกที่ผมถือ DONNAY ลงสนามครับ แล้วก็เป็นครั้งแรกที่ผมได้ลอง Solinco Tour Bite ครับ Tour Bite เอ็นเหลี่ยมและคมได้ใจมากครับ DONNAY เมื่อขึ้น Setup นี้แล้ว power ของไม้ ไม่ค่อยจะคมและแน่นเท่าที่ควร จะออกไปทาง นุ่ม และ แฝงไปด้วยพลังมากกว่า ไม่เหมือนพวก RPM ที่ power เยอะอย่างเห็นได้ชัด บีม 15 mm ทำให้ power ที่ได้จะสูงพวก Midsize ตัวอื่นไม่ได้เลย จะมีก็แค่ความนึ่งและความคล่องตัวเท่านั้นที่กินขาด ไม้ออกแนวสไตล์ PT10 ครับ คือมีความคล่องตัวสูง

การสไลด์บอล คือว่ากินขาดครับ สำหรับไม้และเอ็นชุดนี้ ถือว่าสุดยอดมากๆ มีแต่คนชมว่าสไลด์บอลได้ดีไม่ลอย แถมพุ่งเลียดขอบเน็ท ส่วน Feel ของเอ็นชุดนี้ ถือว่า ออกแนวตีสบายไม่นุ่ม ไม่แข็ง เน้น Control มากกว่า power ถอนขนบอลได้ดีเสียด้วย ขนาด Hybrid กับ Vanquish แล้ว

สรุปแล้ว DONNAY X-Blue 94 เป็นไม้ที่น่าตื่นเต้นมาก มันเหมาะกับคนที่มีสไตล์การเล่นที่หลากหลาย ไม่ว่าจะ serve + volley + baseline ตอนนี้ผมยังไม่ได้จับ X-Black 94 แล้วก็ไม่จับ Technifibre VO2 Max (Verdasco paintjob) ด้วยเพราะกำลังมันส์กับ X-Blue 94 ผมคิดว่า set up นี้ มันตอบโจทย์ผมได้มาก เพราะผมชอบไม้กับเอ็นที่ให้ Control มากกว่า power เพราะ power ผมสร้างเองได้ หน้าเน็ตนิ่งมาก แล้วก็เลือกได้ ผมพัฒนาหน้าเน็ตได้ดีมากก็เพราะ X-blue และ setup เอ็นชุดนี้ ลงตัวมากๆครับ

แต่ผมแปลกใจว่าทำไม กระแส ต่อต้านมันมีรุนแรงบ้าง ทั้งๆที่ไม้ก็ตีได้ดีมากๆเลย อัดกับเด็กแข่งแรงๆ ไม้ยังนิ่ง สู้กับพวก PD GT ได้สบายๆ แถมดีกว่า mid size หรือ MP บางตัวเสียด้วย

X-Blue 94 วางเทียบกับ DONNAY Borg Pro


DONNAY X-Blue 94 ตอนโดนแสง


ข้อมูลเชิงเทคนิค ของ DONNAY X-Blue 94
ขนาดหน้าไม้: 94 ตารางนิ้ว
น้าหนักไม่รวมเอ็น: 320 กรัม
บาลานซ์ไม่รวมเอ็น: 310มม.
น้าหนักซวิงไม่รวมเอ็น: 290
บาลานซ์ไม่รวมเอ็น: 8 Points HL
น้าหนักซวิงรวมเอ็น: 328
แพ็ทเทิร์นของเอ็น: 18x20
ความแข็ง: RA67
วัสดุด้ามจับ: หนัง
ความตึงเอ็น: 50lbs (+/- 5)
ความหนาของเฟรม (หัว/คอ/ก้าน): 15/17/17 มม.

เทคโนโลยีที่ใช้

XēneCore™: คือเทคโนโลยีการผลิตเส้นใยที่ใช้ความดันสูงเพื่อสร้างและเสริมความแกร่งเส้นใยกราไฟต์ผสมซึ่งทำให้เพิ่มความแกร่งของวัสดุและสามารถลดขนาดความหนาของแร็กเก็ตลงไปเหลือเพียง 15 มม. นั่นหมายถึงความคล่องตัวและพาวเวอร์ที่เพิ่มขึ้นในการตีบอล การที่เส้นใยกราไฟต์ถูกผลิตที่ความดันสูงนั้นยังมีผลช่วยให้ลดแรงสั่นสะเทือนซึ่งอาจจะก่อให้เกิดความล้าและอันตรายที่แขนได้ เทคโนโลยี XēneCore™ ในแร็กเก็ตตระกูล X-Series™ เป็นปัจจัยหลักช่วยสร้างพาวเวอร์ให้กับไม้ที่เน้นคอนโทรล แร็กเก็ตชนิดเฟรมกว้างที่มีอยู่ในท้องตลาดสามารถสร้างพาวเวอร์ได้ แต่ไม่สามารถควบคุมลูกบอลได้ดี พาวเวอร์ที่ซ่อนอยู่ในแร็กเก็ตเฟรมบางที่ใช้วัสดุ XēneCore™ จะช่วยให้ผู้เล่นสามารถโฟกัสอยู่กับ ความรู้สึกในการตี และ คอนโทรล ได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องกังวลเรื่องพาวเวอร์

Hexagonal Molding - กระบวนการผลิตที่มีการฝังรูร้อยเอ็น แบบหกเหลี่ยม 10 ชิ้นในแต่ละข้างของแร็กเก็ตลงไปก่อนขั้นตอนการหลอมและอบเพื่อลดความเสี่ยงในการแตกร้าวของโครงสร้างภายใน และยังเพิ่ม Torsional Stability ระหว่างการตีลูก Top Spin


Power Map เมื่อเทียบกับไม้ตัวอื่น จะเห็นว่าให้ power ที่ตำแหน่งขอบไม้ 3 และ 9 นาฬิกาสูงกว่าไม้ที่มี spec ใกล้เคียงกัน

เทียบกับไม้หน้า 90-93


เทียบกับไม้หน้า 95

1 comment:

  1. ผมขึ้นเอ็นแบบนี้บน Kblade tour ครับ Feel มันจะออกนุ่มๆ เวลาตีแรงๆเสียงจะแน่นมากสะใจดีครับ แต่เอ็นขาดง่ายไปหน่อยนะผมว่า ผมตีได้ อาทิตย์กว่าเอ็นก็ขาดหมดแล้วครับ *------------*

    ReplyDelete